คะน้าเป็นพืชผักใบเขียวที่นิยมรับประทานทั่วไป โดยเฉพาะเมนูคะน้าหมูกรอบโปรดของผม เพราะเป็นผักที่หาซื้อง่ายราคาไม่แพง แต่ก่อนจะนำมารับประทานอาจจะต้องทำความสะอาดมากหน่อย เพราะอาจมีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลงและอาจจะต้องระวังในเรื่องของธาตุแคดเมียมที่อาจจะปนเปื้อนมากับน้ำและพื้นดินด้วยนะครับ
คุณค่าทางโภชนาการในคะน้าพบว่ามีวิตามินหลายชนิด เช่น บีตา-แคโรทีน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอดมะเร็งเต้านม และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งสารเบต้าแคโรทีนรวมกับวิตามินซี จะกลายเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพมาก และยังมีวิตามินซีช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื้น และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคมีความแข็งแรงสมบูรณ์
นอกจากนี้ยังมีแคลเซี่ยมช่วยเสริมสร้างกระดูกอีกด้วย โดยการรับประทานคะน้า 1 ถ้วย จะได้รับแคลเซียมพอ ๆ กับการดื่มนม 1 แก้ว ทั้งยังให้โฟเลตและธาตุเหล็กสูง ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง และยังเหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะโฟเลตกับสารอินโดลส์ (indoles) ที่มีอยู่ในคะน้ายังป้องกันการพิการแต่กำเนิดของทารก แต่ไม่ควรบริโภคมากเกินไปเนื่องจาก มีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้
ใบและก้านใบของคะน้า ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงและรักษาสายตา ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน เสริมสร้างเนื้อเยื่อ ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ต้านทานการติดเชื้อ สร้างเม็ดเลือดแดงช่วยบำรุงโลหิตช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยรักษาอาการไมเกรน ช่วยชะลอปัญหาความจำเสื่อม ช่วยรักษาโรคหอบหืด ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยคลายการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลอดลม และช่วยป้องกันโรคท้องผูก ประโยชน์เยอะมากเลยใช่มั้ยละครับ คะน้าของเรา นี่แหละของมีประโยชน์ต่อร่างกายเรามีอยู่มากมาย เพียงแค่รู้จักเลือกกินแค่นี้ก็ดีต่อสุขภาพแล้วครับ
ขอให้ทุกท่านกินอาหารให้อร่อย และมีสุขภาพดีนะครับ
ฝากติดตามให้กำลังใจกันได้ที่
Facebook : https://goo.gl/6Tsk9s
Instagram : kinkumlangdee
Line : @kinkumlangdee (พิมพ์ @ ด้วยนะครับ)