วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

แครอท vs แตงกวา



ผักที่เรามักเห็นบ่อย ๆ ในเมนูเพื่อสุขภาพขาดไม่ได้ที่จะต้องมี แครอท และแตงกวาซึ่งทั้งสองอย่างมีประโยชน์ และสรรพคุณเด่น ๆ ดังต่อไปนี้
แครอท : มีวิตามินเอและเบต้าแคโรทีนสูง ช่วยบำรุงสายตา แก้โรคตาฝ้าฟาง ช่วยขับปัสสาวะ นอกจากนี้ แครอทยังมีสารฟอลคารินอลซึ่งทำงานร่วมกับสารเบต้าแคโรทีน สามารถต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง กินได้ทั้งสดและปรุงสุก แต่ถ้าผ่านความร้อนจะทำให้วิตามินที่อยู่ในแครอทแตกตัวเพิ่มขึ้น ร่างกายจะได้รับประโยชน์มากกว่า
แตงกวา : ช่วยเสริมความจำ ลดอาการนอนไม่หลับ แก้กระหายน้ำ มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง ขับปัสสาวะ ทำให้ผิวขาวใส นุ่มนวล กินได้ทั้งสดและปรุงสุก ล้างให้สะอาดก่อนนำไปรับประทานนะครับ

เมนูหน้าอย่าลืมหาแตงกวา กับแครอทมาทานกันด้วยนะครับ ^^

ฝากติดตามให้กำลังใจกันได้ที่ 
Facebook : https://goo.gl/6Tsk9s 
Instagram : kinkumlangdee
Line : @kinkumlangdee (พิมพ์ @ ด้วยนะครับ)


วันพฤหัสบดีที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2559

ฟักทอง ตัวช่วยในการลดน้ำหนัก


           "ฟักทอง" ถือเป็นตัวช่วยในการลดน้ำหนัก ที่ดีอย่างหนึ่งเลยทีเดียว เพราะฟักทองเป็นพืชที่มีกากใยมาก และมีแคลอรีไม่สูง ไขมันน้อย จึงทานแล้วไม่ทำให้อ้วน แถมในฟักทองยังมีวิตามินหลายชนิดในปริมาณสูงเช่น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี5 วิตามินบี6 วิตามินซี วิตามินอี ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุแคลเซียม ธาตุโพแทสเซียม ธาตุโซเดียม ธาตุแมงกานีส ธาตุเหล็ก ซิงค์ เป็นต้นฟักทองช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวพรรณมีน้ำมีนวล และยังบำรุงสายตายังให้ดูใสปิ๊งอีกต่างหาก

ฝากติดตามให้กำลังใจกันได้ที่ 
Facebook : https://goo.gl/6Tsk9s 
Instagram : kinkumlangdee
Line : @kinkumlangdee (พิมพ์ @ ด้วยนะครับ)

วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2559

คุณค่า จากคะน้า


คะน้าเป็นพืชผักใบเขียวที่นิยมรับประทานทั่วไป โดยเฉพาะเมนูคะน้าหมูกรอบโปรดของผม เพราะเป็นผักที่หาซื้อง่ายราคาไม่แพง แต่ก่อนจะนำมารับประทานอาจจะต้องทำความสะอาดมากหน่อย เพราะอาจมีการปนเปื้อนของยาฆ่าแมลงและอาจจะต้องระวังในเรื่องของธาตุแคดเมียมที่อาจจะปนเปื้อนมากับน้ำและพื้นดินด้วยนะครับ
คุณค่าทางโภชนาการในคะน้าพบว่ามีวิตามินหลายชนิด เช่น บีตา-แคโรทีน ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอดมะเร็งเต้านม และมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ซึ่งสารเบต้าแคโรทีนรวมกับวิตามินซี จะกลายเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ หรือสารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพมาก และยังมีวิตามินซีช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อให้ชุ่มชื้น และทำให้ระบบภูมิคุ้มกันโรคมีความแข็งแรงสมบูรณ์
นอกจากนี้ยังมีแคลเซี่ยมช่วยเสริมสร้างกระดูกอีกด้วย โดยการรับประทานคะน้า 1 ถ้วย จะได้รับแคลเซียมพอ ๆ กับการดื่มนม 1 แก้ว  ทั้งยังให้โฟเลตและธาตุเหล็กสูง ซึ่งสารทั้งสองชนิดนี้จำเป็นต่อการสร้างเม็ดเลือดแดง ป้องกันโรคโลหิตจาง และยังเหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะโฟเลตกับสารอินโดลส์ (indoles) ที่มีอยู่ในคะน้ายังป้องกันการพิการแต่กำเนิดของทารก แต่ไม่ควรบริโภคมากเกินไปเนื่องจาก มีสารกอยโตรเจน (Goitrogen) ทำให้เกิดอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ 
ใบและก้านใบของคะน้า ช่วยบำรุงผิวพรรณ บำรุงและรักษาสายตา ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน  เสริมสร้างเนื้อเยื่อ ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน ต้านทานการติดเชื้อ สร้างเม็ดเลือดแดงช่วยบำรุงโลหิตช่วยเพิ่มการไหลเวียนของโลหิต ช่วยป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุน ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ช่วยรักษาอาการไมเกรน ช่วยชะลอปัญหาความจำเสื่อม ช่วยรักษาโรคหอบหืด ช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ ช่วยคลายการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อหลอดลม และช่วยป้องกันโรคท้องผูก ประโยชน์เยอะมากเลยใช่มั้ยละครับ คะน้าของเรา นี่แหละของมีประโยชน์ต่อร่างกายเรามีอยู่มากมาย เพียงแค่รู้จักเลือกกินแค่นี้ก็ดีต่อสุขภาพแล้วครับ
ขอให้ทุกท่านกินอาหารให้อร่อย และมีสุขภาพดีนะครับ

ฝากติดตามให้กำลังใจกันได้ที่ 
Facebook : https://goo.gl/6Tsk9s 
Instagram : kinkumlangdee
Line : @kinkumlangdee (พิมพ์ @ ด้วยนะครับ)





วันศุกร์ที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2559

กินแตงกวา แก้กระหาย คลายร้อน


“แตงกวา” เป็นผัดที่เรามักพบเป็นส่วนประกอบในการตกแต่ง หรือกินแกล้มเมนูต่าง ๆ แต่เป็นเพราะเมนูส่วนใหญ่นำมาตกแต่งจัดจานทำให้อาหารน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น จึงทำให้เราเกิดความคุ้นชินจนคิดว่ามันกินได้นะ อย่าเขี่ยทิ้ง 555 เพราะรู้หรือไม่ว่า “แตงกวา” นี้แหละ มีประโยชน์กับร่างกายไม่น้อยเลย แถมอากาศร้อน ๆ แบบนี้ แตงกวาช่วยได้ยังไงไปดูกัน
ประโยชน์มากมายของแตงกวา
ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายเกิดอาการขาดน้ำ เพราะในตัวของมัน มีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 90%- ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ทั้งภายนอก และภายใน- สามารถล้างสารพิษที่มีอยู่ในร่างกายได้ และยังสามารถช่วยละลายก้อนแข็งที่อยู่ในไตได้ด้วย- อุดมไปด้วยวิตามินเอ, บี และซี
ช่วยลดความดันโลหิต
ช่วยรักษาสมดุลในร่างกาย เช่นระดับน้ำตาลในเลือด - ทำให้ระบบภูมิคุ้มกัน อยู่ในสภาพวะที่เหมาะสมช่วยในการขับถ่าย แก้อาการท้องผูก - ช่วยบำรุงระบบการย่อยอาหารในร่างกาย
สามารถลดไข้ได้ และยังสามารถดื่มน้ำแตงกวา เพื่อแก้อาการเจ็บคอได้- เสริมสร้างการทำงานของระบบประสาท- ช่วยลดกรดในกระเพาะอาหาร สำหรับคนที่เป็นโรคกระเพาะ- แก้อาการนอนไม่หลับ- มีสารต้านมะเร็ง- มีฤทธิ์ ช่วยในการขับปัสสาวะ
ประโยชน์เยอะมากกกกกกก ซึ่งเมนูอาหารที่มีแตงกวาเป็นส่วนประกอบก็มีเยอะแยะมากมายเช่น แตงกวาผัดไข่, ผัดเปรี้ยวหวาน, ต้มจืด, ตำแตงกวา ฯลฯ เอาไว้ถ้ามีเวลาจะนำมานำเสนอสักหนึ่งเมนูนะครับ โปรดติดตามตอนต่อไป
ขอให้ทุกท่านกินให้อร่อย และมีสุขภาพดีนะครับฝากติดตามให้กำลังใจกันได้ที่ Facebook : https://goo.gl/6Tsk9s

Instagram kinkumlangdee

Line : @kinkumlangdee (พิมพ์ @ ด้วยนะครับ)